พิธีมอบฉัตรและรัตนชาติประดับยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์แก่ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

พระภาวนาธรรมาภิรัช วิ. รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดร่ำเปิง เป็นประธานสงฆ์ในการทำพิธีมอบฉัตรและรัตนชาติประดับยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์แก่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

โดยมี รศ.ดร.ชาตรี มณีโกศล อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เป็นประธานจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการและกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย ในโอกาสเข้ารับมอบแก้วยอดฉัตรและรัตนชาติประดับยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ จากประธานสงฆ์ พระเดชพระคุณพระภาวนาธรรมาภิรัช วิ. รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดร่ำเปิง โดยมีคณะบริหารและบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่เข้าร่วมพิธี ณ วัดร่ำเปิง(ตโปทาราม) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2565

พิธีบำเพ็ญกุศลสวดมาติกา-บังสกุล

เมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 16.30 น. พระภาวนาธรรมาภิรัช วิ เจ้าอาวาสวัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) และพระภิกษุสงฆ์-สามเณรแม่ชี อุบาสกอุบาสิกาผู้ปฏิบัติธรรทั่วไป ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลสวดมาติกา-บังสกุล เพื่ออุทิศถวาย สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสมมหาเถร) ป.ธ. ๙, ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง อดีตรองอธิการบดี อดีตรองประธานกรรมการที่ปรึกษาและรองประธานกรรมการอุปถัมภ์โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ อดีตเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม วรวิหาร ณ อุโบสถไม้สักทอง วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสมมหาเถร) ป.ธ. ๙, ได้เคยให้โอวาทแก่ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ในคราวที่ไปเยี่ยมเยียน วัดร่ำเปิง ว่า …พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ได้ประกอบด้วย การปฏิบัติเมื่อไรให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติเมื่อนั้น ผู้ไม่ปฏิบัติไม่มีทางได้รับผล แล้วจะผัดวันประกันพรุ่ง รอเอาไว้ เดือนหน้า ปีหน้า ก็ไม่ได้ รอไปชาติหน้าก็ไม่ได้ ต้องเอาชาตินี้…

โครงการอุปสมบทหมู่

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมถ์ โครงการอุปสมบทหมู่ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา 2565

ณ วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) สนใจบวชพระ ติดต่อ
สำนักงานสงฆ์ 065-032 7592

“วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม)”

พระภาวนาธรรมาภิรัช พระวิปัสสนา เจ้าอาวาสวัดร่ำเปิง

กล่าวถึงความเกี่ยวข้องของสถานที่กับการปฏิบัติไว้ว่า

“เรื่องของสถานที่มีความสำคัญอยู่เพราะว่า…

ในกรรมฐานบางบทพระพุทธเจ้าถึงกับกำหนดด้วยว่า

เป็นป่า เป็นโคนไม้ เป็นเรือนว่าง

พระองค์ใช้คำว่า …….

อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา

… อยู่ในป่าก็ดี

… อยู่ที่โคนไม้ก็ดี

… อยู่ในเรือนว่างก็ดี

เพราะกรรมฐานบางบทนั้นจะต้องอาศัยความละเอียด

ความสงบของสถานที่จึงจะสามารถเห็นอารมณ์ได้ชัดเจน

ความหวั่นไหวของจิตได้ชัดเจน

มันจึงจะสามารถช่วยทำให้โยคีนั้นมีสมาธิได้ดี

วัดร่ำเปิงเตรียมพร้อมที่จะรับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน เพราะว่าเรามีสำนักงานต่างประเทศที่มีเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว มีเจ้าหน้าที่ต้อนรับ สอนและสาธิตให้ แล้วสามารถสอบอารมณ์ภาษาอังกฤษได้

การอยู่ในสถานที่ ที่เอื้อต่อการดูจิต ดูอาการของจิตนั้นจะทำให้เราเข้าถึงความจริงของชีวิตว่าชีวิตเรานี้ดำเนินไปด้วยกำลังของบุญหรือบาป หรือกุศล อกุศล เหตุของปัญญานั้น
มีสมาธิเป็นฐาน มีสมาธิเป็นมูล มีสมาธิเป็นปัจจัยจริงอยู่ วิปัสสนานั้นเราอาศัยหลักของ ขณิกสมาธิ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีเสียงหรือสิ่งรบกวนเกินไป ขณิกสมาธิที่มีกำลังก็คือความต่อเนื่องของเขามีอยู่ ตลอด จึงเป็นปัจจัยเป็นฐานอันเกิดญาณและปัญญาได้

สำหรับคนไทยเรานั้น ก็จะมีการแบ่งออกเป็นผู้ปฏิบัติธรรมระยะยาวให้อยู่เขตพิเศษ ที่เราจะมีผู้ควบคุมดูแลเป็นพิเศษและก็ให้อยู่ในห้องเดี่ยวเท่านั้น ไม่ให้อยู่คู่ ส่วนผู้ปฏิบัติธรรมที่มาระยะสั้น เราก็จะให้อยู่แบบห้องเดี่ยวบ้าง ห้องคู่บ้าง ตามสภาพคนมามากน้อย

เยาวชนตั้งแต่เด็กจนถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือหน่วยงานราชการผู้ใหญ่ก็จะให้อยู่อีกกลุ่มหนึ่ง เรียกว่าเป็นการปฏิบัติเข้าค่ายธรรมภาวนา ก็จะมีอาคารที่รับรองเป็นห้องพักรวมเป็นห้องปฏิบัติธรรม แล้วมีวิทยากรดูแลเป็นสัดส่วน

วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) www.watrampoeng.com

กล้าพะยอมแจกฟรี วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม)

พะยอม ชื่อสามัญ Shorea, White meranti

สมุนไพรพะยอม มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า แดน (เลย), ยางหยวก (น่าน), กะยอม เชียง เซียว เซี่ย (เชียงใหม่), พะยอมทอง (ปราจีนบุรี สุราษฎร์ธานี), ขะยอมดง พะยอมดง (ภาคเหนือ), สุกรม (ภาคกลาง), คะยอม ขะยอม (อีสาน), ยอม (ภาคใต้), ขะยอม (ลาว), พะยอมแดง แคน พะยอม เป็นต้น

ต้นกล้าพะยอม วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม)

พะยอมไม้ป่าที่หายาก…แต่ไม่ยากที่นี่ วัดร่ำเปิง

เมื่อถึงช่วงหน้าหนาวดอกพะยอมสีขาวจะออกดอกส่งกลิ่นหอมไปทั่วรอบ ๆ ผู้มาปฏิบัติธรรมมักจะได้กลิ่นหอมไปทั่วรอบ ๆ อุโบสถไม้สักทอง พระภาวนาธรรมาภิรัช พระวิปัสสนาจารย์ เจ้าอาวาส รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งท่านมีความคิดที่เกิดประโยชน์จากดอกพะยอม โดยสามารถนำมาบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วย และที่สำคัญเมื่อดอกร่วงลงสู่พื้นท่านได้ให้พระที่จำอยู่วัด นำตาคายมารองรับดอกแล้วนำไปทำเป็น ชาพะยอม” เป็นชาเพื่อสุขภาพอีกด้วย จนเกิดเป็นชาพะยอมวัดร่ำเปิง และดื่มเป็นสุขภาพ ใครได้มาช่วงเดือนมกราคมก็จะมีการแจกชาพยอมให้ไปชงดื่มฟรี ในงานวันเกิดท่าน แต่ถ้าไม่ได้มาก็มาเอาไปปลูกที่บ้านได้เลย ระยะเวลา 10-15 ปี ต้นจะมีความสูง 10 เมตร ออกดอกปีละครั้ง

และ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2565 วันพืชมงคล ทางวัดได้เตรียมเอาต้นกล้าใส่ถุงแจก ฟรี!
สำหรับต้นกล้าพะยอมทางวัดเพาะไว้เป็นจำนวนหลายพันเกล้าสามารถติดต่อขอรับไปปลูกได้ที่ สำนักสงฆ์วัดร่ำเปิง

โทร 053278620 ต่อ 109

ช่วงออกดอก

ลักษณะของต้นพะยอม

ต้นพะยอม มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและเอเชีย เช่น ประเทศพม่า ลาว ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ มีความสูงประมาณ 15-20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นอาจยาวถึง 300 เซนติเมตร เปลือกต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทาเข้ม แตกเป็นร่องตามยาวและเป็นสะเก็ดหนา ส่วนเนื้อไม้มีสีเหลืองถึงสีน้ำตาล ลักษณะของต้นเป็นทรงพุ่มกลมสวยงามมาก แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ถ้าหากปลูกในที่โล่งแจ้งและไม่มีพรรณไม้ใหญ่ชนิดอื่นอยู่ใกล้ ๆ เป็นต้นไม้ที่สวยโดยธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องทำการตัดแต่งกิ่งแต่อย่างใด ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง ซึ่งในปัจจุบันพันธุ์ไม้ชนิดนี้กำลังเริ่มลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ โดยสามารถพบได้ตามป่าเบญจพรรณแล้งและชื้น หรือป่าดิบแล้งทั่วไป ทุกภาคของประเทศที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 60-1,200 เมตร และดอกพะยอมยังเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย

ภาพต้นพะยอมวัดร่ำเปิง (ตโปทาราม)

ที่มา : https://medthai.com/